3D Embossing
การพิมพ์มีเรื่องราวแปลกใหม่ให้ได้เห็นอยู่ทุกวัน เพื่อยกระดับชิ้นงานพิมพ์ให้สูงไปอีกขั้น มีหน้าตาที่สวยงาม และเล่าเรื่องราวถ่ายทอดความรู้สึกได้ล้ำลึกมากยิ่งขึ้น และมีการใช้งานที่พิเศษ การพิมพ์นูนแบบ 3 มิติ ได้เข้ามามีบทบาทให้กับกระดาษพิมพ์ไม่ได้เป็นเพียงกระดาษแบนเรียบที่มีมิติเดียว แต่ยกพื้นผิวให้นูนขึ้น เพิ่มสัมผัสการรับรู้ได้ทั้งการมองเห็นและการสัมผัส
รู้จักกับ 3D Embossing
3D Embossing เป็นเทคนิคการปั๊มนูนที่พิเศษกว่าปกติ การปั๊มนูนโดยทั่วไปจะเป็นนูนแบบนูนต่ำ แต่การปั๊มนูน 3 มิติจะเหมือนเป็นงานปั้น งานแกะสลัก สามารถไล่ระดับความสูงของส่วนที่นูนได้มากขึ้น แม้ในยุคดิจิทัล การได้สัมผัสถึงลวดลายหรือพื้นผิว นับเป็นสิ่งที่เกิดจากงานฝีมือและมีคุณค่ามากกว่าปกติทั่วไป รวมถึงความหรูหรา เพิ่มมูลค่าให้กับชิ้นงานดีไซน์ได้
คุณสมบัติ
สามารถไล่ระดับความสูงของพื้นนูนได้ ต่างจากการปั๊มนูนปกติที่มีความนูนเท่ากันทุกบริเวณ กระดาษที่เหมาะกับการปั๊ม 3D Emboss จะเป็นกระดาษเส้นใยหรือ กระดาษเนื้อละเอียด ที่มีความหนาหรือแข็งไม่มาก เช่น Cotton paper ที่สามารถทนแรงกดและยกพื้นผิวให้นูนขึ้นได้และยังช่วยแสดงให้เห็นพื้นผิวและความประณีตของงานด้วย งาน 3D Emboss สามารถพิมพ์ร่วมกับเทคนิคอื่นๆ ได้ เช่น เลตเตอร์เพรส, ปั๊มฟอยล์, ปั๊มทอง ช่วยเพิ่มความประทับใจที่น่าจดจำให้กับผู้พบเห็น 3D Emboss มีข้อจำกัดเรื่อง การที่ไม่สามารถพิมพ์ด้านหลังของชิ้นงานที่พิมพ์ได้หากพิมพ์ 3D Emboss บนด้านหนึ่งแล้ว และมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าเทคนิคปั๊มนูน (Emboss) เล็กน้อย
การใช้งาน
งานที่ 3D Emboss ทำได้ดีที่สุดคือการเสริมความโดดเด่นของพื้นผิวสัมผัส ไม่จำกัดแต่เฉพาะแค่บนนามบัตรเท่านั้น สามารถใช้กับงานอื่นๆ ได้อีก เช่น การ์ดแต่งงาน, อุปกรณ์เครื่องเขียนส่วนตัว หรือแม้กระทั่งฉลากไวน์ สามารถนำไปใช้ได้หลากหลายและสามารถไล่ระดับความนูนรวมถึงลวดลายบริเวณที่ปั๊มได้ด้วย อย่างเช่น การพิมพ์เนื้อกระดาษผ้าฝ้ายสีขาวหนาๆ ด้วยวิธีพิมพ์แบบ 3D Emboss ให้เป็นรูปหมอน เพิ่มความหรูหราให้กับนามบัตรได้ หรือจะเป็นโลโก้สวยๆ ที่ไล่ระดับพื้นผิวได้ เช่น รูปหัวสัตว์ต่างๆ, รูปดอกไม้, เปลือกหอย, หรือแม้แต่บอลลูน ตามแต่ไอเดียของผู้ออกแบบ